ผู้เขียนได้กราบเรียนถามหลวงพ่อเกี่ยวกับวังพระนิพพาน ตามที่หลวงพ่อเคยเล่าให้ฟังว่าตอนที่หลวงพ่อเป็นสามเณร จำพรรษาอยู่วัดศรีพรหม ได้นิมิตเห็นพระอริยเจ้าเดินจงกรมอยู่เหนือวัดภูพลานสูง และในนิมิตบอกว่า “ที่นี่คือวังพระนิพพาน” หมายความว่าอย่างไร หลวงพ่ออธิบายให้ผู้เขียนฟังว่าที่ตรงนี้บนภูพลานสูงแห่งนี้ เป็นดินแดนของพระพุทธองค์ ดินแดนของพระพุทธเจ้าที่มาประทับรอยพระพุทธบาท รอยพระหัตถ์ และพระสรีรังคารของพระพุทธองค์ซึ่งเป็นองค์เอกทั้งหมดปรากฏอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ ที่ตรงนี้จึงเป็นสรวงสวรรค์เป็นวังพระนิพพาน เป็นที่อยู่ของพระอริยเจ้าทั้งหลายในสายพระอริยเจ้า ถ้าจะพูดไปใต้ภูเขาลูกนี้มันเป็นภพหนึ่งอยู่ใต้ภูเขา ภพนั้นเป็นภพภวังค์ คล้าย ๆ กับเป็นโพรงถ้ำ ไม่ใช่เมืองบังบด ในเมื่อพระอนาคามี พระอรหัตมรรคยังไม่สิ้นแต่ตายก่อนทุกองค์ก็จะเข้าไปอยู่ตรงนั้นใปดับอยู่ตรงนั้นในแดนภวังค์ แดนพระนิพพานดินแดนแห่งนั้นมันจะเย็น กว้าง สงบเงียบ เย็นเจี๊ยบเลย คนธรรมดาจะเข้าไปไม่ได้ ทางเข้าอยู่บนภูเขาต้นน้ำบุ้นนั่นแหละ จึงทำให้ภูเขาลูกนี้เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ชุ่มชื้น เป็นสิริมงคล เพราะข้างล่างแผ่นดินยังมีอีกภพหนึ่งอยู่ใต้นั้นคือภพภวังค์หรือวังพระ นิพพานพระฤๅษี พระอรหันต์ทั้งหลายที่มรณะภาพไปแล้ว แต่ยังไม่ถึงพระนิพพาน เช่น พระอนาคามี พระอรหัตมรรคเมื่อตายไปแล้วไม่มีคนบำเพ็ญบุญอุทิศกุศลให้ ไม่มีคนชักผ้าบังสุกุลให้ตายอยู่ในป่าในเขาก็ต้องไปรวมกันอยู่ที่นั่นไปดับ ที่นั่น เมื่อดับตรงนั้นสิ้นอาสวะกิเลสแล้วก็เข้าพระนิพพานตรงนั้น มันเป็นดินแดนที่เป็นทิพย์อยู่ใต้แผ่นดินภูเขาลูกนี้ มีพระตระเวนเข้าไปดับนิโรธดับอยู่ที่นั้น การที่จะเข้าไปตรงนั้นได้ต้องบำเพ็ญบารมีถึงขั้นอนาคามีมรรค อรหัตมรรคก็ไปตามธรรมชาติ ไม่ใช่ว่าเราจะเข้าไปเดินดูได้เหมือนสถานที่ท่องเที่ยว เป็นที่เฉพาะบุคคลที่สำเร็จแล้วเท่านั้น ดินแดนนั้นเป็นดินแดนต้องห้าม แม้จะถอดจิตไปก็เข้าไปไม่ได้ เขาห้ามเข้า เขาให้เฉพาะคนที่ตายแล้วเข้า แต่จะเห็นได้เหมือนกันแต่ต้องมีญาณหยั่งรู้ หลวงพ่อได้แค่เห็นแค่รู้เท่านั้นพระพุทธองค์ท่านทรงเนรมิตไว้แต่ละอย่าง ตรงไหนเป็นอะไรพระองค์ท่านจะจัดไว้หมด คือว่าแดนเนรมิต แดนพระนิพพานต่าง ๆ พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์เป็นผู้เนรมิตเป็นผู้สร้างขึ้นทั้งหมด เพื่อเตรียมรองรับผู้ที่จะมาคุ้มครองดูแลพระพุทธศาสนาต่อไป เช่น คนทำบุญมากตายแล้วขึ้นสวรรค์ สวรรค์มาจากไหน ก็พระพุทธองค์ พระโพธิสัตว์ พระปัจเจกเหล่านี้เล้วนเป็นคนสร้างเพื่อตอบแทนคุณผู้ที่ทำดี เพราะอาศัยเนื้อนาบุญเราทำบุญสืบศาสนา สิ่งเหล่านี้พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าท่านทำไว้ สร้างโลกไว้ มาในสมัยนี้ก็สร้างโลกใหม่ ตัดยุคตัดสมัยเกิดภัยพิบัติสารพัดอย่าง สิ่งที่ไม่เคยเกิดก็เกิด เป็นอำนาจล้างโลกเพื่อสร้างโลกใหม่อย่างเช่น ซัดดัม กัสกาฟีก็ถูกทำลายล้างหมดถูกโค่นลงหมด ต่อไปโลกก็จะเป็นศิวิไลซ์เข้าสู่ยุคใหม่ มีแต่ความเสมอภาคทำให้โลกเรียบเป็นหน้ากลอง บางคนคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการปูพื้นไปสู่ยุคพระศรีอาริยเมตไตรย์ ไม่ใช่นะยังไม่ถึงยุคนั้น พระพุทธเจ้าท่านจะมาตรัสรู้ สัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนาแต่ละยุคจะไม่เหลือร่องรอย นะโม… คำสอนจะไม่เหลือเลย นั่นแหละถึงจะได้มีพระพุทธเจ้าอุบัติบังเกิด การที่จะเป็นพระพุทธเจ้าต้องตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง เราลองนึกดูซิว่าเราเคยเห็นสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้ากกุสันโธหรือองค์อื่น ๆ ไหมไม่มี กว่าสัญลักษณ์และคำสอนจะหมดไปมันนานขนาดไหน สิ่งเหล่านี้เป็นการปูทางไปสู่ยุคศิวิไลซ์ เพื่อถวายพระพุทธองค์ ตอนนี้เรากำลังบูรณาการสืบบูชาถวายพระพุทธองค์ “ให้เฮามาสู่คำ แปลงความถวายเพิ่นยอยกพระศาสนา” พวกเราต้องทำถวายพระพุทธองค์ ถวายเจ้าพุทธองค์เรามาสืบพระศาสนาถวายพระพุทธองค์ เราได้บุญ คนที่จะสำเร็จมรรคผลนิพพานได้ก็ต้องอาศัยบุญ ถ้าเราไม่มีบุญมันก็เกิดความสุขไม่ได้ บางคนบอกว่าไม่สำคัญ การทำบุญสู้นั่งภาวนาไม่ได้ ถ้าเรามัวแต่นั่งภาวนาอยู่โดยไม่ทำบุณทำทานเวลาจะกินแล้วไม่มีเราจะเป็น ทุกข์ไหม เดี๋ยวลูกโทรมาแม่ขอค่าเทอมหน่อย อยู่ไม่ไหวแล้วหลวงพ่อขอลากลับบ้านก่อน
ก็เพราะไม่มีบุญมาหนุนส่ง