หัวสิงห์โต

     หัวสิงโตที่วางอยู่ตรงพระนอนนั้นมีประวัติความเป็นมา  ตามที่หลวงพ่อเมตตาเล่าให้ผู้เขียนฟังเกี่ยวกับหัวสิงโตกับเศียรพระพรหม  หัวสิงโตกับเศียรพระพรหมเกี๋ยวข้องกับพระศาสนากับพระบรมธาตุอย่างไร   ในอดีตพระบรมธาตุข้อพระหัตถ์  พระสรีรังคารนี้อยู่ที่ศาลพระพรหม  ประเทศเขมร   ในยุคนั้นมีมอญแดงมอญขาวมอญดำได้ทำสงครามแย่งชิงพระบรมธาตุข้อพระหัตถ์จาก พระยาขอม  พระเทวจักรไม่ยอมจึงได้อัญเชิญพระบรมธาตุข้อพระหัตถ์และพระสรีรังคาร  เหาะข้ามภูเขามาไว้ที่ปราสาทศาลพระพรหมที่เมืองเขมร   ท่านอธิษฐานแล้วเก็บไว้ตรงนั้นต่อมาในยุคที่พระบรมธาตุเสด็จมาอยู่ที่วัดภู พลานสูง  เทวดาก็เวนให้คนตัดหัวสิงโตมาทิ้งไว้บนยอดเขา  ชาวบ้านไปเห็นเข้าก็แบกเอามาถวาย   เขาเวนให้มาเศียรพรหมเขาก็เอามาไว้ที่บนยอดเขา  ชาวบ้านก็เอามาถวาย  เอามาเป้นสัญลักษณ์เครื่องหมายส่วนเกี่ยวข้อง  เพราะในอดีตพระบรมสารีริกธาตุเคยอยู่ตรงนั้นมากกว่าสองพันปี  ตั้งแต่พ.ศ.๑๙  พรานป่าไปพบก็เอามาถวาย   เศียรพรหมก็อยู่ประเทศเขมร  ในอดีตศาลพระพรหมตั้งอยู่ในเมืองนั้นเรียกว่า “นครอินทปัต” ในตำนานประเทศเขมร   สมัยโบราณเรียกนครอินทปัตศรี  นครอินทปัตได้นามชื่อนั้นเพราะมนุษย์   เราศรัทธาเลื่อมใส่ได้สร้างปราสาทเรียกว่า นครวัด  นั่นคือปราสาทศาลพระอินทร์  ปราสาทนครธม   ก็คือนารายณ์บรรทมสินธุ์  ปราสาทตาพรหมก็คือศาลพระพรหมนั่นแหละ  ศาลพระพรหมเป็นศาลหลวง  ปีหนึ่งกษัตริย์จะเดินทางมาประกอบพิธีบวงสรวง  นครอินทปัตเป็นเมืองใหญ่อลังการที่สุด  เจ้าเมืองมีศรัทธาสร้างศาลบูชาพระพรหม  พระอินทร์  สร้างปราสาทถวายพระอินทร์ให้เสด็จมาประทับ  สร้างศาลพระพรหม  สร้างปราสาทนารายณ์บรรทมสินธุ์  คนสมัยนั้นนับถือเทวนิยม  ไม่ได้นับถือพุทธศาสนา  เพราะว่าปราสาทนครวัดนครธมนครอิทธปัตเกิดก่อนพระพุทธศาสนา ๓ – ๔พันปีมาแล้ว จึงกล่าวได้ว่าเหล่าเทพเทวดาเหล่านี้เป็นผู้นำร่องปูทางถวายพระพุทธองค์  ฉะนั้นแดนนี้จึงเรียกแดนนารายณ์  มีพระนารายณ์  มีพระอิศวร  มีเทพอีกมากมายหลายองค์  เทพเหล่านี้ล้วนมีฤทธิ์ทั้งสิ้น  ผู้ที่จะมาโปรดเทพเหล่านี้ได้ก็คือพระโมคคัลลานะ  นั่นเป็นสาเหตุที่พระโมคคัลลานะวนมาโปรดสัตว์แถบนี้  โดยใช้ฤทธิ์อำนาจกำหราบพวกเทพทั้งหลาย  เทพทั้งหลายจึงเกิดศรัทธาเลื่อมใสในพระศาสนาจึงวนเข้ามาหาพระนารายณ์ก็มี ส่วนเพราะเป็นบริวารของพระโพธิสัตว์ เป็นบริวารของพระพุทธเจ้า  เขาเป็นผู้มีฤทธิ์  ฤทธิ์เกิดจากพระพุทธองค์ประทานให้  เทพทั้งหลายเกิดความเลื่อมใสศรัทธาจึงหมุนเข้า  หลอมเข้าสู่พุทธศาสนา พุทธศาสนาของพระพุทธองค์สอนให้รู้ถึงความหลุดพ้น  ให้รู้แจ้งในสัจธรรม  ตรงนั้นแหละเป็นสาเหตุที่พระพุทธองค์ทรงดำริว่าเห็นคนเกิด
แก่เจ็บตาย  พระองค์คิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะพ้นจากสภาวะเหล่านั้น  พระพุทธองค์จึงได้แสวงหาและบำเพ็ญเพียรจนจบ  คือพระนิพพาน พระนิพพานเป็นทางแก้การเกิดแก่เจ็บตาย  เมื่อผู้ใดเข้าถึงพระนิพพานแล้ว  ชื่อว่าเป็นผู้มีความอมตะ  เป็นผู้ไม่ตายเหมือนพระพุทธองค์  ปรินิพพานแล้วก็ยังมีพุทธสรีระ  แม้พระอรหันต์นิพพานแล้วก็ยังมีพระอัฐิธาตุล่องลอยอยู่  เสด็จไปเสด็จมา  นั่นแหละเรียกว่าความเป็นผู้เข้าถึงอมตะคือความไม่ตาย  คือพระนิพพานไม่ใช่พระนิพพานแปลว่าดับสูญทุกอย่าง  ไม่ใช่นิพพานเป็นที่สิ้นอาสวะกิเลสแล้วเข้าถึงความเป็นผู้ไม่ตาย  เป็นอมตะ  เข้าถึงการไม่ต้องมาเกิด  มาแก่  มาเจ็บ มาตาย  พระพุทธองค์จึงได้ประสบได้เห็นได้ตรัสรู้แจ่มแจ้งในเรื่องเหล่านี้