คำภีร์พระยาธรรม

     ผู้รจนาคัมภีร์พระยาธรรมคือพระโมคคัลลานะ คัมภีร์นี้มี ๑๒ ผูก เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระบรมสารีริกธาตุ เช่น ประวัติข้อพระหัตถ์เบื้องขวา ประวัติพระสรีรังคาร ประวัติพระเขี้ยวฝาง ประวัติพระพุทธโลหิต รอยพระพุทธบาท ประวัติรอยพระหัตถ์ ประวัติความเป็นมาของพระโมคคัลลานะ ประวัติความเป็นมาของกรรมมหาฤทธิ์ ๑-๒-๓ ชาติ ความเป็นมาของยุคศิวิไลซ์

ดังนั้นถ้าเราไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้เราจะไปประกาศได้อย่างไร ถ้าผู้ใดได้ศึกษาความเป็นมาเป็นไปที่มาที่ไปต่าง ๆ ตามตำนานจนจบเรียบร้อย เขาจะเรียกว่า พระยาธรรมสามารถไปประกาศธรรมของพระพุทธองค์ได้ ถ้าเราไม่รู้ไม่ทราบเราจะไปประกาศได้อย่างไร พระเขี้ยวฝางมาจากไหน พระพุทธโลหิตมาจากไหนไม่รู้ แล้วเราจะไปประกาศพระองค์ได้อย่างไร นั่นแหละเขาเรียกผู้ไปประกาศว่าพระยาธรรม ผูกสุดท้ายผูกที่ ๑๒ คือศักดาอานุภาพ หรือ ศักดามณี หรือศักดามหามณี ถ้าผู้ใดได้รับได้ครอบครองได้รองรับเป็นผู้มาประกาศ ต้องได้ศึกษาเล่าเรียนศักดาอานุภาพ เรื่องราวความรู้ต่าง ๆ ในโลกนี้ เรื่องไสยเวทย์ต่าง ๆ จะ
มาเหนือศักดาอานุภาพไม่ได้ นั่นคือผูกสุดท้ายของพระคัมภีร์พระยาธรรม หลวงพ่อได้ศึกษาเล่าเรียนคัมภีร์นี้มา เมื่อหลวงพ่อไปตรงไหนฝนจะตกฟ้าจะร้องดังสนั่น กำหราบปราบหมู่มารทั้งปวง เรากำลังทำอะไรอยู่ก็ตาม  ถ้าสวดมนต์บทนี้ขึ้นมาทุกอย่างจะราบ ถ้าไม่ยอมต้องตาย ถ้าไม่หยุดต้องตาย นี่คือศักดาอานุภาพไปที่ไหนสวดฝนก็จะตกตลอด มันจะชุ่มเย็นตลอด หลวงพ่อปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ท่านวางเอาไว้ ไม่ใช่ว่าขลังท่านให้สวดทำหน้าที่ของเรา ให้สวดถวายตามตำนานที่เขียนไว้ ถามว่าให้คนอื่นเรียนได้ไหม เรียนไม่ได้เพราะมันเป็นของเฉพาะบุคคล

นี่คือเรื่องราวของพระคัมภีร์พระยาธรรม ผูกที่ ๑ ผูกที่ ๒ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับข้อพระหัตถ์ พระสรีรังคาร เรื่องที่พระพุทธองค์เสด็จมาสู่สุวรรณภูมิ ฯลฯ ไปจนถึงบทสุดท้ายผูกสุดท้ายจะเป็นบทสวด ผูกอื่นๆ จะเป็นประวัติเรื่องราวของพระพุทธเจ้า เช่น พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานเสวยอะไรจึงนิพพาน ชัดเจนไหม อย่างเช่นพระพุทธโลหิตสด เป็นพระพุทธโลหิตสดได้อย่างไร เมื่อพระพุทธองค์ได้ปรินิพพานไปแล้ว ท่านก็ได้บันทึกประวัติศาสตร์ไว้ชัดเจนว่า ก่อนพระพุทธเจ้าปรินิพพานพระองค์เสวยเห็ด แล้วอาเจียนออกมาเป็นเลือด เทวยักษ์นำไปเก็บรักษาไว้นั่นก็เป็นประวัติศาสตร์ในคัมภีร์ และเรื่องราวของกรรมมหาฤทธิ์จะมาอุบัติบังเกิดขึ้นในราชวงศ์เขาสร้างบารมีมา เท่าไหร่ กรรมมหาฤทธิ์สร้างบารมีมาทั้งหมด๓๒ ชาติ ปรารถนาจะรองรับพระศาสนาในกึ่งศตวรรษในยุคศิวิไลซ์ ใน
อดีตท่านเคยเกิดเป็นช้างน้ำงาดำอยู่ในเมืองบาดาล ทำให้พญานาคแพ้พิษงาตายมากมายก่ายกอง จึงถูกพญานาคเวนเอาไว้ให้มาเกิดเป็นพญานาค  ต่อมาท่านมาเกิดเป็นช้างทำให้ฝูงช้างแพ้บารมี ช้างตายมากมาย แม้แต่พ่อก็ตาย เขาก็เลยสร้างรูปช้างสืบมูลเป็นสัญลักษณ์ของประเทศลาว ต่อมาเมื่อกรรมมหาฤิทธิ์ตายจากช้างเผือกงาแก้ว ได้มาเกิดเป็นพญานาคอยู่เมืองบาดาล เมื่อพระพุทธองค์ได้เสด็จมาประทับรอยพระบาทที่ภูพลานสูงกรรมมหาฤทธิ์ก็ขึ้น มาจากเมืองบาดาลมาต้อนรับแสดงความประสงค์แก่พระพุทธองค์ว่าอยากจะเป็นผู้มา รองรับพระศาสนาของพระพุทธองค์ พระพุทธองค์ทรงประทานพรให้แก่กรรมมหาฤทธิ์ เราให้แก่เธอกรรมมหาฤทธิ์ฯ

ถ้าเราไม่ทราบประวัติความเป็นมา เราจะไปบอกไปอธิบายไปเล่าให้ใครฟังได้อย่างไร  ท่านกำหนดไว้หมดทุกอย่าง เราต้องศึกษาให้เข้าใจถ่องแท้ในเรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่กุขึ้นมาได้ ต้องมีหลักฐานอ้างอิง ฉะนั้นเมื่อบุคคลผู้ศึกษาตำนานพระยาธรรม ๑๒ ผูกไว้ ดังที่หลวงพ่อพระโตโคตะมะท่านบอกว่า “เราจะพูดเฉพาะกับเธอคนเดียวเท่านั้น เพราะเธอเป็นพระยาธรรมแห่งเรา เป็นพระยาธรรมแห่งเราเป็นผู้มาปลูกร่างสร้างตัวเราถวายเรา” คนที่เรียนคัมภีร์พระยาธรรมแล้วไม่ไปทำงานมันก็เกิดเหตุเพทภัย มีอันเป็นไปเพราะไม่เป็นไปตามที่พระพุทธองค์อนุญาตไว้เราจะเรียนก็ได้แต่มัน จะเกิดวิบัติ เพราะไม่มีวาสนาบารมีที่จะเรียนได้
คนที่เรียนคัมภีร์พระยาธรรมมีหลายคน เช่น หลวงพ่อคูณ ได้เรียนปลายแถวแถวสุด หลวงปู่คำคณิงเรียนหมดทุกข้อ แต่ก็ออกมาจากใต้บาดาลไม่ได้ก็ตายไป หลวงพ่อคูณเรียนศักดาอานุภาพแถวสุดท้ายยังได้ไม่หมด หลวงพ่อได้เรียนทั้งหมด ทั้งต้นทั้งกลางทั้งปลายได้เรียนทั้งหมด มหาศักดาอานุภาพ หรือเรียกว่า ศักดามณี มีหลายคนอยากเรียน พระก็อยากเรียนมารบเร้าให้หลวงพ่อสอน หลวงพ่อก็ไม่ให้เรียน เพราะมันยากถ้าเรียนไปมันจะเกิดวิบัติ แค่เอาน้ำที่แช่พระคัมภีร์ไปกินก็เกือบตาย อำนาจอะไรก็ตามจะไปเหนือศักดาอานุภาพไม่มี คนที่เรียนไสยเวทย์ เวทย์มนตร์คาถาจะอยู่ในวัดนี้ไม่ได้ เพราอำนาจของมหาศักดาอานุภาพบังคับ  ฉบับจริงเป็นแผ่นทองคำเมื่อลอกเสร็จก็เอากลับไปเก็บไว้ที่เมืองบาดาล แผ่นทองเหลืองอยู่ที่หลวงพ่อ จะมีคัมภีร์แผ่นทองเหลืองและแผ่นกระดาษข่อยที่อยู่ที่หลวงพ่อ หลวงพ่อจะเป็นคนบันทึกลงกระดาษข่อยเวลาหลวงพ่อเขียนก็สั่นเหมือนกัน อยากจะเขียนให้สวย ๆ มือไม้มันก็สั่น เทพขุนมาลัยมาช่วยคัดลอกลงแผ่นทองเหลือง ฟ้าผ่าลงมาทำให้ตาบอดเพราะคัมภีร์เป็นสื่อ หลวงพ่อพยายามเขียนให้มันสวย พยายามเขียนอยู่ ๒ ครั้ง กระดาษที่เสียจะเอาไปเผาไฟก็กลัวบาปก็เลยเอาไปแช่น้ำเพื่อให้มันเปื่อย หลวงพ่อฉีกกระดาษที่เขียนคัมภีร์เป็นแผ่นเล็ก ๆ แล้วนำไปแช่ในคูลเล่อร์ที่มีน้ำ คิดว่าตื่นเช้าขึ้นมากระดาษถูกน้ำคงจะเปื่อยยุ่ย หลวงพ่อแช่น้ำไว้ ๒ วัน ไปเปิดดูตัวหนังสือยังเหมือนเดิมไม่ละลายไม่เปื่อยไม่เป็นอะไรเลยหมึกก็ไม่ เลอะ หลวงพ่อกลัวบาปก็เลยเอากระดาษที่แช่น้ำไปตากแดด พอดีน้องชายหลวงพ่อมาหา หลวงพ่อจึงให้เขาไปเก็บกระดาษคัมภีร์ที่ตากไว้มาให้ เขาไปจับเท่านั้นเป็นไข้สั่นระริก ๆ  เขารีบกลับบ้านไปนอนป่วยอยู่ ๓ เดือน และวันนั้นพอดีมีโยมมาหาเขาบอกว่าเขาตาเจ็บตามองไม่ค่อยเห็น หลวงพ่อก็ตักน้ำที่คูลเล่อร์มาเป่าให้โยม  พอเป่าเสร็จโยมคนนั้นก็ตาสว่างมองเห็นชัดเจน ทำไมมันเร็วนักนี่ก็เป็นอานุภาพของน้ำแช่คัมภีร์ที่ไม่สมบูรณ์ หลวงพ่อก็เลยเอาน้ำในคูลเล่อร์ ใส่ขวดแจกให้ญาติโยมจนหมด หลวงพ่อได้เก็บไว้เหมือนกันจำไม่ได้ว่าเก็บไว้ตรงไหนยังหาไม่พบ

นั่นแหละเรื่องคัมภีร์นี้ถึงจะให้ใครไปศึกษาไม่ได้ ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ บางคนอยากเรียนเพราะคิดว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ไม่ใช่อย่างนั้นหลวงพ่อเรียนมาไม่ใช่นำมาเป็นเครื่องรางของขลัง หลวงพ่อเรียนมาไม่ใช่ว่าอยากเรียน แต่เรียนเพราะท่านให้ศึกษาร่ำเรียนเพื่อให้มาทำงานตรงนี้  ถ้าเราไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนจะมารองรับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร  สมัยที่หลวงพ่อมาเจอเทวยักษ์ครั้งแรกหลวงพ่อมานอนอยู่ตรงที่สร้างมณฑปแก้ว นอนหลับฝันเห็นยักษ์ตกลงมา หลวงพ่อกลัววิ่งไปหลบใต้ฐานพระพุทธชินราช มองออกไปเห็นยักษ์ตัวใหญ่มากมันมาได้อย่างไร  เสร็จแล้วยักษ์ก็หายไป จากนั้นเทวยักษ์ก็ไปหาหลวงปู่โมคคัลลานะ เมื่อหลวงพ่อได้พบหลวงปู่โมคคัลลานะจึงได้รู้จักกับเทวยักษ์ ช่วงขึ้นมาอยู่ใหม่ ๆ หลวงพ่อก็พบกับพญานาค ๒ ตัวเป็นเด็ก หลวงพ่อนอนหลับไปเจอพญานาคเป็นมังกรเหาะลงมาตรงนี้ หลวงพ่อเกิดความกลัววิ่งหลบเข้าไปในป่า พอตื่นขึ้นมากลายเป็นความฝันไป ฝันครั้งที่สองก็เห็นอีก แต่คราวนี้ไม่กลัวเดินเข้าไปเอานิ้วไปแตะที่จมูกมังกร ตามันเขียวปี๋เลย พอมือไปแตะที่จมูกเขาก็กลายเป็นคน ก็เลยชวนกันวิ่งเล่น เป็นความฝันแต่ฝันซ้ำ ๆ กันเหมือนเดิมบ่อยมาก

ตอนที่สมัยที่หลวงพ่อไปจำพรรษาที่วัดป่าหนองแคเห็นพญานาคขึ้นมาหา ครั้งแรกที่เห็นพญานาคมาที่กุฏิมองลงไปเห็นเขานั่งกราบอยู่  เขากราบทำไมเห็นมีงูอยู่ด้านหลังเขา เขาบอกหลวงพ่อว่าหลวงพ่อไปเที่ยวที่แม่น้ำเซเขาเห็นผู้มีบุญ เขามากับเพื่อนเขาเป็นผู้ชาย ต่อมาหลวงพ่อจึงได้รู้จากหลวงปู่โมคคัลลานะว่านั่นคือกรรมมหาฤทธิ์ ตอนนั้นยังไม่มาเกิด พ.ศ. ๒๕๓๐ หลวงพ่อไปเที่ยวใกล้แม่น้ำเซบก ไปธุดงค์อยู่แถวนั้น หลวงพ่อรู้บ้างเห็นบ้าง เคยนิมิตบ้างฝันบ้าง หลวงปู่โมคคัลลานะก็เล่าให้ฟัง คราวนี้ก็เลยรู้เรื่องราวต่าง ๆ ต้องศึกษากันทุกวัน พอหลวงพ่อสวดมนต์มหาศักดาอานุภาพขึ้นก็ได้คุยกับหลวงปู่  คุยกันเหมือนคนเรานั่ง
คุยกันนี่แหละ คุยกันแทบทุกวันนาน ๆ เข้าก็หมดเรื่องคุย เพราะหลวงพ่อรู้ข้อมูลต่าง ๆ หมดแล้ว ถ้าจะไปถามนั่นถามนี่ กลัวท่านจะว่าเอา อะไรนิดอะไรหน่อยก็มาถามไม่ใช้ปัญญาเลย ถ้าจะไปถามก็ถามเรื่องงานเท่านั้น  งานด้านนี้ไปถึงไหน เรื่องนั้นเป็นอย่างไร โปรแกรมนี้เป็นอย่างไร หลวงปู่ท่านจะวางโครงการให้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ต้องติดตามเรื่องไหนบ้างมหาศักดาอานุภาพหลวงพ่อเรียนอยู่ ๕ ปีถึงจะจำได้ ตอนนี้ชักลืมแล้ว คัมภีร์ ๑๒ ผูกหลวงพ่อเพิ่งจะเรียนจบมาได้ ๒ ปี ช่วงก่อน ๆก็เรียนบทสั้น ๆ ๓ – ๔ ตัว เรียนจบเมื่อ ๓ ปีที่ผ่านมานี่แหละ สมัยก่อนก็มีแต่ศักดาอานุภาพเท่านั้น

เมื่อหลวงพ่อเรียนคัมภีร์พระยาธรรมจบจึงได้มาทำหน้าที่พระยาธรรม มาสร้างตัวตนถวายพระพุทธองค์ สร้างตัวตนถวายหลวงพ่อพระโตโคตะมะ  สร้างตัวตนถวายพระแก้ว เมื่อเรารู้ตำนานแล้ว เราก็ต้องมาทำงานนี้  คนอื่นหลาย ๆ คนที่เขาร่ำรวยเขาก็ไม่คิดจะสร้าง ที่หลวงพ่อคิดจะสร้างเพราะเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ในตำนานจึงสร้างถวายตามตำนาน สร้างอะไรก็ไม่สูงสุดเท่าสร้างพระแก้ว พระหยก เพราะแก้วและหยกเป็นหินธรรมชาติ  จึงต้องนำมาสร้างเป็นพระแก้ว ที่สูงสุดที่สุดคือพระแก้วมรกต จึงเป็นที่มาของคำว่า “พระแก้ว” ก็คือพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์  เป็นแก้วรัตนะ ๓ ดวง เรามาสร้างพระรัตนตรัยเพื่อสืบต่ออายุพระศาสนา  อีกหน่อยนานไปก็จะแย่งชิงกันครอบครองพระแก้วเหมือนเหตุการณ์ในอดีตเพราะเป็น สมบัติอันล้ำค่า

ที่นครแสนคำหลวงพ่อก็ได้สร้างพระไม้แกะสลักเรียก “พระแสน” จำนวน ๙ องค์ ๙ แสน ตอนนี้สร้างเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้สร้างฐานรองรับพระแสน ดังนั้นถ้าเราไม่ทราบประวัติความเป็นมาเรื่องราวต่าง ๆ เราจะไปคิดสร้างได้อย่างไรถ้าไม่มีตำนาน  เราทำถวายไม่ใช่เพื่อวันนี้ แต่เรามองไปถึงอนาคต เพื่อเตรียมการรับเสด็จผู้ที่จะมารองรับพระศาสนา เราสร้างถวายพระองค์ท่าน เฉลิมพระเกียรติในการที่พระองค์ท่านเสด็จอุบัติบังเกิดขึ้นมารองรับพระศาสนา ในยุคศิวิไลซ์  ในยุคนี้มีพระแก้วเกิดขึ้นในแผ่นดินกี่องค์ คนอื่นสร้างพระหยกพระแก้วมากมาย  แต่ไม่มีใครสร้างตามตำนาน พระแก้วหายากมากเมื่อหลวงพ่อสร้างพระแก้ว  จะจนขนาด
ไหนก็มีคนมาช่วยเหลือ นั่นก็เพราะพระบารมีของพระพุทธองค์ท่านให้  พระองค์ท่านไม่ให้มากเมื่อมันจะหมดก็จะมีให้ไม่ให้อดไม่ให้อยาก  ค่อยทำไปเรื่อย ๆ ถ้าเกิดมีคนมาช่วยกันทำมากมายมันก็วุ่นวายเกิดปัญหา มีศรัทธามากก็เกิดปัญหา ฉะนั้นมีบ้างไม่มีบ้างค่อย ๆ สร้างค่อย ๆ ทำไป มันจะไม่เกิดปัญหา ถ้าคนเราร่ำรวยผิดปกติมันก็มัปัญหา ถ้าโด่งดังมากมันก็มีปัญหาทุกอย่าง การมีชื่อเสียงโด่งดังไม่ใช่เรื่องดีนะ เดินไปทางไหนญาติโยมก็ตามเป็นขบวนไม่ใช่เรื่องดี เป็นเป้านิ่งสำหรับฝ่ายตรงข้าม  เหมือนการเรียนวิชาอาคมสวดออกแสงพึบพับมันก็ไม่ดี อยู่ได้ไม่นาน  เขาก็หาว่าเป็นปอบ คนที่เรียนอิติปิโสมาตั้งสองพันกว่าปีไม่เห็นมีใครว่าเป็นปอบ สวดไปเป่าไปมันออกแสงมันก็ดี ตลอดเวลาพระพุทธองค์มีแต่ให้ บางคนอยากได้ของศักดิ์สิทธิ์ไปเอาน้ำมันพรายมาทำเป็นเครื่องรางของขลัง เดินไปไหนคนเขาก็เห็นผีเดินตามหลัง บางคนเป็นบ้าไปก็มีมันไม่ดี  คนเราไม่เข้าใจ  เราต้องศึกษาและต้องเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ ให้ถ่องแท้จะได้ไม่ผิดพลาด

สมัยก่อนพระสุเธผู้มีตำนานพระแสน พระแสนคำ พระแสนทอง พระแสนเงิน พระเกศ พระกรรณเหล่านี้ สมัยก่อนพระแสนเมื่อหมดตำนาน  ล่มสลายไปก็ไปดังที่เชียงแสนเชียงของ ตรงนั้นเป็นเมืองขอม  ตำนานพระแสนได้ไปบังเกิดที่ตรงนั้น พวกมอญพวกพม่าไปอยู่ตรงนั้นหมด เขาแกะสลักพระเป็นรูปทรงต่าง ๆ เป็นพระทรงเครื่องบ้าง พระนอนบ้าง  นั่นแหละมาจากมอญ พวกนี้เขามีศรัทธาในพระศาสนาได้ประดิดประดอย  ทำบาตรไม้สัตบงองอาจบาตรพญานาค ถวายวางไว้ที่หน้าพระธาตุ ในสัตว์ตัวเดียวมีลักษณะพิเศษ ๗ อย่าง ตัวเป็นพญานาค มีงวงเหมือนช้างมีขาเหมือนม้าเหมือนปี่เซี้ยะของคนจีน เขาจึงเรียกสัตบงองอาจบาตร
พญานาค นั่นคือพญานาคบันดาลให้พวกมอญทำขึ้นมาเพื่อถวายพระพุทธองค์ ที่ประเทศพม่าหน้าธรรมาสน์จะมีสัตบงองอาจบาตรพญานาค  วางถวายพระพุทธองค์อยู่หน้าธรรมาสน์ ถ้าใครไม่เคารพจะต้องประสบกับความวิบัติ

สัตบงองอาจบาตรพญานาคที่หลวงพ่อได้มาก็เป็นเรื่องแปลก  อยู่ ๆ ก็มีโยมชื่อสันติอยู่ที่จังหวัดระยองเขานำมาถวาย  ของชิ้นนี้เป็นของคนรุ่นเก่าแก่เป็นคนมอญอยู่ข้าง ๆ บ้านโยมสันติ วันหนึ่งโยมสันติไปเห็นเข้าเกิดอยากได้ขึ้นมา ร้องห่มร้องไห้จะเอาให้ได้ของเก่าชิ้นนี้  เจ้าของเขาถามว่าจะเอาไปทำอะไร คุณโยมสันติตอบว่าจะเอาไปถวายวัด จะไปถวายวัดทำไม ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่อยากได้เอาไปถวายวัด คุณกล้าซื้อหรือราคา๓ แสน  โยมสันติตอบว่าไม่มีเงิน ผู้ขายยื่นข้อเสนอให้ผู้ซื้อยืมเงิน ๒ แสน ยืมเงินมาซื้อของเขา โยมสันติก็เอา พอคุณโยมเอามาไว้ที่บ้าน เขาบอกว่ามีอะไรก็ไม่รู้บอกเขาให้เอาไปถวายวัดภูพลานสูงให้ได้ เขาไม่เชื่อไม่ยอมเอาไปถวายวัด เขาโดนพญานาคลงโทษพาตัวเขาไปนอนแช่น้ำทะเล ๗ วัน  ญาติ ๆ ไปตามเจอพามาอาบน้ำอาบท่าเสร็จ  เขาจึงบอกญาติ ๆ ว่าพญานาคบอกให้เอาบาตรไม้นี้ไปถวายวัดภูพลานสูง เขาไม่รู้ว่า เป็นสัตบงองอาจบาตรพญานาค  เขานั่งรถตระเวนหาวัดภูพลานสูงหลงไปถึงนครสวรรค์
สอบถามเส้นทางจึงวิ่งกลับมาที่วัดภูพลานสูง อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี  เมื่อเขาถวายหลวงพ่อเป็นพุทธบูชาแล้ว หลวงพ่อจึงบอก  เขาว่านี่คือสัตบงองอาจบาตรพญานาค  พญานาคสร้างถวายพระพุทธองค์เป็นบาตรไม้แกะสลักสวยงามติดกระจกฝังมุขสวยงาม เป็นของ
โบราณเก่าแก่