การเสด็จมาของข้อพระหัตถ์เบื้องขวา

ในปี พ.ศ. ๒๕๔๗ ก่อนเข้าพรรษา ๗ วันได้เกิดเรื่องราวนี้ขึ้น  จึงได้นามว่า “สุริยะธาตุ” เรื่องมีอยู่ว่าหลวงพ่อกลับจากงานเทศน์ที่อำเภอพิบูลย์ฯ  กลับมาถึงวัดเหนื่อยมากก็เลยมานั่งพักอยู่ข้างนอกกุฏิ  นั่งพักผ่อนภาวนาดูลมหายใจ  พักผ่อนสบาย ๆ  พอวางมือยังไม่เข้าที่ดี  เกิดอุคนิมิตเป็นลูกกลม ๆ  แต่กลมยาวเท่าขวดลิโพเป็นแสงสีเขียว  พอหลับตาลงลูกกลม ๆ  มันก็หมุนติ้ว ๆ  พุ่งเข้าใส่ตัวที่หน้าท้องหลวงพ่อ  หลวงพ่อรีบลืมตาขึ้นรู้สึกแปลกใจมาก  เรานั่งภาวนาหลับตาลงยังไม่ทันไรทำไมเป็นอย่างนี้  มันเป็นอะไรนะ  เราไม่ได้ไปปรุงแต่งอะไรทำไมจึงเกิดเป็นแสงพุ่งเข้าตัวเราอย่างนี้  หลวงพ่อเลยเลิกนั่งลุกเข้ากุฏิไปอยู่ต่อมา ๔-๕ วันหลวงพ่อรู้สึกไม่สบายปวดขา  เจ็บโน่นปวดนี่ทรมานที่สุด  มันปวดตรงขา  ตรงหัวเข่ามาก  เดินไม่ได้ขางอไม่ได้ทรมานมาก  ให้ลูกศิษย์มานวดมารักษาก็ไม่หาย  หลวงพ่อนึกว่าทำไมเราไม่รู้ว่าเราเป็นอะไร  ทีคนอื่นเรายังทำนายทายทักเขาได้  นึกคาดเดาไปต่าง ๆนานา  ทำไมมันเจ็บปวดรุนแรงขนาดนี้ ยาหลายขนานก็รักษาไม่หาย  หลวงพ่อเลยมานั่งสมาธิดู  ก็เกิดอุคนิมิตอีกเป็นเหมือนลมหมุนอย่างเร็ว  และแรงคล้าย ๆ พายุทอร์นาโด  หมุนแล้วก็พุ่งเข้าไปตรงหน้าท้องหลวงพ่อ  เสร็จแล้วลมนั้นก็หมุนออกจากตัว  ความรู้สึกหลวงพ่อขณะนั้นเหมือนวิญญาณออกจากร่างเหาะผ่านป่าผ่านดงข้าม ภูเขา  หลวงพ่อพยายามจับต้นไม้ไว้เพื่อให้มันหยุด  ต้นไม้ขาดสะบั้นเพราะความเร็วของลม  เสร็จแล้วก็ไปหยุดอยู่กลางดงรงปราสาทเก่า  หลวงพ่อได้ยินเสียงเทวดาพูดขึ้นมาว่า  “ท่านทำไมถึงดื้อจัง  อดทน  ท่านไม่รู้หรือว่าตอนนี้พระพุทธเจ้าจะเสด็จมาอยู่กับท่าน” หลวงพ่อนึกในใจว่าพระพุทธเจ้าท่านปรินิพานไปนานแล้วพระองค์จะเสด็จมาอยู่กับ เราได้อย่างไร  นึกในใจนะ  เทวดาก็ตอบทันทีว่า  “พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์จะเสด็จมาอยู่กับท่าน” หลวงพ่อก็นึกอีกว่ามีด้วยหรือพระธาตุ เทวดาก็ตอบว่า  มีสิ  อยู่ที่ไหน  อยู่ไม่ไกลจากที่นี่  หลวงพ่อก็เลยบอกว่าถ้าพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์มีจริง  ขอให้เสด็จขึ้นมาให้ข้าพระพุทธเจ้าเห็นสิแล้วข้าพระพุทธเจ้าจะเชื่อว่ามี จริง

12