พระแก้วแสนคำ เมื่อหลวงพ่อพระโตโคตะมะเสด็จลงสู่แม่น้ำวังมนวังฮี ผู้คนยังไปกราบไหว้ขอพรขอบารมีจากหลวงพ่อพระโตโคตะมะอยู่เนือง ๆ หลาย ๆ ปีก็เงียบหายไปซึ่งเป็นไปตามกฎธรรมชาติที่มีเกิดและมีดับเป็นของคู่กัน หลวงพ่อพระโตโคตะมะได้ไปจำพรรษาที่เมืองบาดาล ต่อมาอีกประมาณ ๑๐ กว่าปี หลังจากพุทธปรินิพพาน พระมหากัจจายนะกับพระสีวลีและเจ้าเมืองอินทปัตได้ร่วมกันสร้างพระแก้วแสนคำ ขึ้นมา และได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้ามาบรรจุไว้บนเศียรพระแก้วแสน คำ นครแสนคำเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นปึกแผ่นมากกว่าเมืองอื่น ๆ หลายเมืองเกิดศรัทธาในพระแก้วแสนคำ จึงได้ทำการรบพุ่งแย่งชิงพระแก้วแสนคำมาไว้ในครอบครอง พระแก้วแสนคำจึงได้เสด็จมาอยู่เมืองแสนคำตรงที่เจ้าเมืองเอาหิน ๓ ก้อนจากนครโคตรภูมาวางไว้ เมื่อพระแก้วเสด็จมาอยู่ตรงนี้ เขาเลยสร้างเมืองขึ้นมา สร้างหอปราสาท สร้างมณฑป วิหารถวายพระแก้วแสนคำ จึงได้นามว่า “นครแสนคำ” สืบต่อมา นครแสนคำ อยู่ต่อมาประมาณสี่ร้อยกว่าปีก็เกิดเรื่องราวชิงรักหักสวาทขึ้นในนครแสนคำ พระนางคำนางกับพระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสน พระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสนเป็นพระโอรสของพระเจ้าอองแวชัยเสนแห่งนครจำปาศรี ปัจจุบันคือจังหวัดขอนแก่น เป็นราชบุตรเขยของพระยาตุ้มทองในสมัยนั้นพระยาตุ้มทองมีบารมีโด่งดังมาก ได้พระเจ้าอองแวชัยเสนเป็นราชบุตรเขย มีพระราชโอรสชื่อพระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสน ได้เสกสมรสกับพระนางคำนางซึ่งเป็นหลานของพระยาเทพชมพู แห่งนครแสนเมือง พระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสนได้ปกครองบ้านเมืองด้วยความสงบร่มเย็น สาเหตุที่ทำให้บ้านเมืองล่มจมนั้น เป็นเพราะในปีนั้นพระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสนและบรรดาเหล่าเสนาบดีเห็นพ้องต้องกัน ว่า ตรงตำหนักที่พระนางคำนางประทับอยู่นั้นเริ่มทรุดตัว มีน้ำท่วมขังต่อไปพระตำหนักของพระนางคงต้องพังลงไปอย่างแน่นอน พระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสนจึงให้เสนาบดีไปตระเวนหาที่จะสร้างเมืองใหม่สร้างพระ ตำหนักใหม่ เหล่าเสนาบดีด้นดั้นค้นหาจนมาถึงเมืองบัว ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่มีความเจริญมากเพราะมีโรงงานกระเบื้องดินเผาสังคโลกถึง ๑๐ โรง ความเจริญต่าง ๆ มาอยู่ที่เมืองบัวหมด เมื่อพบที่ถูกใจเหล่าเสนาบดีก็กลับไปกราบทูลพระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสน พระองค์จึงเสด็จมาพร้อมกับเหล่าเสนาบดีเสด็จชมเมืองไปเรื่อย ๆ ขากลับพระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสนทอดพระเนตรเห็นนางบัวอยู่ท่ามกลางเหล่าบริวาร ทั้งหลาย นางดูโดดเด่นกว่าใคร มีบริวารชายหญิงเดินตามเป็นขบวน พระองค์ทรงสนพระทัยนางบัวเป็นอย่างมาก จึงให้มหาดเล็กไปสอบถามว่านางเป็นลูกเต้าเหล่าใคร เมื่อพระองค์ได้ทราบว่านางเป็นลูกสาวช่างหม้อ พระองค์ได้ให้มหาดเล็กไปบอกช่างหม้อว่าพระองค์สนพระทัยลูกสาวช่างหม้อช่าง หม้อได้ทราบข่าวก็ดีใจรีบเรียกลูกสาวให้กลับมาอาบน้ำอาบท่าแต่งตัวและนำลูก สาวไปถวายตัวกับพระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสนต่อมาพระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสนได้สถาปนานาง บัวให้เป็นพระสนมและสร้างเมืองบัว ให้พระสนมบัวอยู่ สร้างพระตำหนักให้เรียกว่า “พระตำหนักพระสนมบัว” เมื่อสร้างเมืองบัวและพระตำหนักพระสนมบัวเสร็จ พระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสนดำริที่จะอัญเชิญพระแก้วแสนคำมาเป็นประธาน เฉลิมฉลองเมืองบัวและพระตำหนักใหม่ให้พระสนมบัว พระสนมบัวปรารภว่าพระแก้วแสนคำจะมาได้อย่างไร ในเมื่อพระนางคำนางเป็นผู้ดูแลพระแก้วแสนคำพระนางคงไม่อนุญาตให้พระแก้วแสน คำเสด็จมาเมืองบัวแน่นอน พระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสนบอกว่าพระองค์จะพยายาม พระสนมบัวจึงได้ตั้งจิตอธิษฐานและเตรียมสถานที่ต้อนรับพระแก้วแสนคำเสร็จ แล้วพระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสนก็เสด็จกลับมาที่นครแสนคำ พระองค์ไปบอกพระนางคำนางเกี่ยวกับการที่จะอัญเชิญพระแก้วแสนคำไปฉลองเมือง ใหม่ พระนางคำนางได้ยินดังนั้นก็เกิดความไม่พอพระทัย พระนางกริ้วมาก พระนางได้ให้บริวารไปสืบความว่าเป็นความจริงไหม บริวารไปสืบสาวราวเรื่องกลับมากราบทูลให้พระนางฟังว่าเป็นความจริง พระนางยิ่งโกรธมาก เมื่อพระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสนเสด็จกลับจากดูงานสร้างเมืองใหม่ที่เมืองบัว พระองค์เสด็จไปที่พระตำหนักพระนางคำนาง เพื่อมาเชิญพระนางคำนางและพระแก้วแสนคำเสด็จไปฉลองเมืองใหม่ เมื่อพระนางคำนางเห็นพระสวามีได้ต่อว่าพระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสนว่าไหนว่าไปหา ที่สร้างเมืองใหม่ ทำไมไปมีสนมใหม่ ต่อว่าต่อขานด้วยความน้อยใจ ด้วยความโกรธพระนางจึงเป็นลมล้มฟุบไป พระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสนช่วยเหลือพระนางจนฟื้นขึ้นมาพระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสนจึง ตั้งสัจจะอธิษฐานว่า พระองค์ขออัญเชิญพระแก้วแสนคำไปฉลองเมืองใหม่ โดยพระองค์จะเสด็จนำหน้าพระแก้วแสนคำทั้งไปและกลับด้วยพระองค์เองให้สมพระ เกียรติ พระแก้วแสนคำจึงได้เสด็จไปเมืองบัว พระนางคำนางหวั่นไหวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก เพราะพระแก้วไม่เคยเสด็จไปที่ใดเลย ใครมาอัญเชิญก็ไม่เคยเสด็จไป ครั้งนี้คงจะเป็นลางไม่ดี พระนางเสียพระทัยมาก
เมื่อพระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสนเสด็จไปเฉลิมฉลองเมืองบัวได้ ๖ วัน เหล่านางกำนัลได้มากราบทูลว่าพระมเหสีประชวรหนักให้พระองค์รีบกลับวัง พระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสนจึงได้รีบเสด็จกลับวัง ด้วยความเป็นห่วงพระนาง พอพระนางคำนางเห็นหน้าพระสวามี คำแรกที่พระนางถามพระสวามีก็คือ ไหนพระแก้วแสนคำ ไหนว่าจะเสด็จกลับมาพร้อมกับพระแก้ว ทำไมพระองค์ผิดสัจจะ ตอนไปพระองค์เสด็จนำหน้าพระแก้วแสนคำบอกว่าเมื่อเห็นหน้าพระองค์แล้วก็จะ เห็นพระแก้วแสนคำด้วย ทำไมพระองค์ปล่อยให้พระแก้วแสนคำอยู่องค์เดียว ไม่นำเสด็จกลับมาพร้อมกับพระองค์ด้วย พระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสนตรัสว่า นางกำนัลบอกว่าพระมเหสีป่วยก็เลยรีบเสด็จกลับมา พระนางคำนางโกรธมากกล่าวหาว่าบ้านเมืองจะล่มสลายหมดเพราะพระราชาตะบัดสัตย์ ทรงสาปแช่งเวนไปหมดทุกอย่าง จนพระนางสลบไป พระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสนนำน้ำมาประพรมให้พระนางฟื้นขึ้นมา วันรุ่งขึ้นพระองค์ก็เสด็จกลับไปอัญเชิญพระแก้วแสนคำกลับ พออัญเชิญมาถึงตำหนักที่ประดิษฐานพระแก้วแสนคำ พระแก้วแสนคำไม่เสด็จขึ้นตำหนัก ท่านเสด็จลอยขึ้นไปบนอากาศและท่านได้ตรัสถามเทวดาที่รักษาบ้านเมืองว่า “ดูก่อนเทวดาเกิดเรื่องอะไรหรือ ทำไมพระแท่นเรากระด้างกระเดื่อง บ้านเมืองเกิดความวุ่นวายอย่างนี้” เทวดาบอกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณอาณาจักรนี้ถูกพระนางคำนางสาปแช่งเวนไว้ หมดแล้ว พระแก้วบอกว่า “ถ้าอย่างนั้นเราก็จะจมลงบาดาลเหมือนที่พระนางสาปแช่ง ทำไมพระนางทำอย่างนั้น ทำไมไปพูดอย่างนั้น พระนางจะเป็นบาปเป็นกรรมใหญ่โตอย่างรุนแรง ต่อไปจะไม่มีใครเห็นเราอีกแล้ว เราจะไม่อยู่ให้ใครเห็นอีกแล้ว ดูก่อนเทวดาต่อไปนี้จะไม่มีใครได้เห็นเราอีกแล้วพระแก้วแสนคำ แต่เรานี้เป็นพระแก้วหยกมณีล้ำค่า มีพระสารีริกธาตุของพระพุทธองค์บรรจุไว้ในพระเศียรเป็นสัญลักษณ์แห่งพระแก้ว แสนคำ ต่อไปนี้เหล่าเทวดาทั้งหลายจงจดจำเรื่องราวเหล่านี้ไว้ ต่อไปเราจะไม่ขึ้นมาให้ใครเห็นอีกแล้วตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป” อีก ๗ วันต่อมาตอนเช้ามืดเวลาตี ๔ พระแก้วแสนคำก็เสด็จขึ้นไปบนอากาศและลอยลงสู่วังบาดาล จากนั้นบ้านเมืองก็ล่มสลาย วังพระนางคำนางก็ถล่มทลายจมลงพื้นดินจนหมด แผ่นดินแยกสูบเอาตึกรามบ้านช่องลงสู่บาดาล ส่วนพระเจ้าอนุพงศ์ชัยเสนหนีตายไปสิ้นพระชนม์ที่วังพระเจืองวังพระเจืองก็ ล่มสลาย อันนี้เป็นตำนานเล่าขานสืบต่อกันมา