รายละเอียดโครงการ

     เริ่มสร้างพระพุทธรูปครอบหลวงพ่อพระโตโคตะมะเมื่อได้ทราบความเป็นมาโดย ละเอียดแล้ว หลวงพ่อภรังสี ฉันทโร ก็ได้ใช้เวลาในการเข้าไปทำความคุ้นเคยกับชาวบ้านแสนชะนี ซึ่งท่านได้ใช้ความอดทน ค่อย ๆ เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้กับลูกศิษย์ใกล้ชิดฟังและได้ขยายวงกว้างไปสู่ฆราวาส โยมทั้งหลายมีความศรัทธานับจากนั้นเป็นต้นมา วัดแสนชะนีก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ มีพระภิกษุ สามเณร พักจำพรรษาตลอดมา พระพุทธรูปองค์ดังกล่าวนี้จมลึกอยู่ใต้ดินประมาณ ๒ เมตร และมีขนาดหน้าตักกว้าง ๒.๒๙ เมตร และเป็นพระพุทธรูปทองคำ การจะนำพระพุทธรูปขึ้นมาจากพื้นดินจึงเป็นเรื่องที่ยากลำบาก ซึ่งจะทำให้มีปัญหาอื่น ๆ ตามมาอีกมากมายภายหลังหลวงพ่อภรังสี ฉันทโร จึงได้ขออนุญาตถวายพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “หลวงพ่อพระโตโคตะมะ” และได้ขออนุญาตที่จะจัดสร้างพระพุทธรูปครอบบริเวณที่พระพุทธรูปทองคำจมอยู่ ใต้พื้นดิน เพื่อป้องกันมิให้บุคคลหรือสัตว์ต่าง ๆ ไปเหยียบย่ำผืนดินบริเวณตรงนั้นอีกต่อไป และเพื่อจะได้ประกาศพระเกียรติคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ได้่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่ง ได้ทรงพระราชทานพระนขาให้ไว้เป็นมรดกแก่ขาวสุวรรณภูมิเมื่อพระพุทธองค์ืทรงมาอุบัติในผืนแผ่นดินสุวรรณภูมินี้แล้ว จึงถือว่าเป็นมงคลแก่ผืนแผ่นดินแห่งนี้ หากพวกเราไม่เชิดชูบูชาแล้ว ก็จะเป็นการไม่เหมาะสม ซึ่งอาจจะเกิดอาเพศแก่แผ่นดินนี้ได้ อีกประการหนึ่ง ในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ นี้ เป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก ทรงครองศิริราชสมบัติ ครบ ๖๐ ปี เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และร่วมเฉลิมฉลองในปีมหามงคลนี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลสืบต่อพระชนมพรรษาแด่พระองค์ท่าน ให้พระองค์ท่านมีพระพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง เจริญพระชนม์มายุยาวนาน เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย และเพื่อเป็นการเสริมพระบารมีอีกทางหนึ่งนับจากปี พ.ศ. ๒๕๓๕ มา นับเป็นเวลา ๑๓ ปี ที่หลวงพ่อภรังสี ฉันทโร ใช้ความเพียรพยายามประกาศเรื่องหลวงพ่อพระโตโคตะมะแก่ชาวโลก และใช้เวลาเข้าไปทำความสนิทคุ้นเคยกับชาวบ้านแสนชะนี จนชาวบ้านมีความเชื่อในเรื่องหลวงพ่อพระโตโคตะมะ จึงได้เริ่มประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ ในวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๔๙ และได้เริ่มดำเนินการสร้างพระพุทธรูปหลวงพ่อพระโตโคตะมะ ซึ่งมีขนาดหน้าตักกว้าง ๗.๖๙ เมตร สูงจากฐานถึงเกศ ๑๒.๒๙ เมตร สร้างเสร็จเมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๐ จึงได้ถวายพระนามว่า “หลวงพ่อพระโตโคตะมะ” เพื่อให้เป็นตัวแทนของพระพุทธรูปองค์ที่ได้ทรงมาอุบัติขึ้นในกึ่งพุทธกาล หลวงพ่อพระโตโคตะมะ จึงเป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญ ต่อสถาบันชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างแท้จริง ดังนั้นหลวงพ่อภรังสี ฉันทโร จึงเป็นผู้ริเริ่มและนำพาคณะศิษยานุศิษย์เผยแผ่ประกาศ “หลวงพ่อพระโตโคตะมะ” จึงได้จัดทำโครงการหล่อพระสืบชะตาหลวง โดยมีพระปลัดชัยรัตน์ ภูริปัญโญ (หลวงปู่มุณีน้อย) และคณะสงฆ์กองทัพพระยาธรรมได้จัดสร้างพิมพ์ต้นแบบหลวงพ่อพระโตโคตะมะขึ้นที่ วัดจอมแจ้ง บ้านแก่งม่วง ต.น้ำทูนอ.ท่าลี่ จ.เลย และวัดโพนหนอง บ้านหนองบง ต.น้ำทูน อ.ท่าลี่ จ.เลย เพื่อเผยแผ่ประกาศจำนวน ๒๒๗ องค์ ทั่วประเทศปัจจุบันในโครงการหล่อพระสืบชะตาหลวง ได้จัดทำพิมพ์หลวงพ่อพระโตโคตะมะหน้าตักกว้าง ๙ เมตร สูง ๑๖ เมตร หน้าตักกว้าง ๓.๖๐ เมตร สูง ๕ เมตร หน้าตักกว้าง ๒.๒๐ เมตร หน้าตักกว้าง ๑.๒๐ เมตร พิมพ์พระสังกัจจาย หน้าตักกว้าง ๓ เมตร พิมพ์พระสีวลี สูง ๔ เมตร วัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา สร้างไว้ในบวรพุทธศาสนา เพื่อสืบพระศาสนา และน้อถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชนทั่วไป สืบทอดไว้ซึ่งพุทธศาสนาตราบสิ้นพุทธันดร เพื่อให้พุทธศาสนิกชนประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการจัดสร้าง ไว้เป็นปูชนียพุทธปฏิมากรที่สำคัญ เป็นที่เคารพสักการบูชาของพุทธศาสนิกชน เพื่อเสริมสร้างความรัก ความศรัทธา ความผูกพันในพระพุทธศาสนา เพื่อดำรงรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามสืบทอดไว้ซึ่งพุทธศาสนาสืบไป

หน่วยงานที่รับผิดชอบ
-กองทุนสุริยะธาตุ วัดภูหลานสูง อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี
-สำนักงานกองทัพพระยาธรรมศิวิไลซ์ วัดโพนทอง บ้านห้วยเดื่อ ต.น้ำทูน อ.ท่าลี่ จ.เลย
-คณะศิษยานุศิษย์ หลวงพ่อภรังสี ฉันทโร
แหล่งที่มาของงบประมาณ
-ประชาชนผู้มีจิตศรัทธา