สาธุ สาธุ สาธุเด้อ… ผู้ข่าจักขอยอมือน้อม เท่ากระหม่อมจอมขวัญ
เป็นสำนวนสิ่งที่มาประมวลไว้ เพิ่นจักให้แขนงธรรมทุก ๆ อย่าง
สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นฮั่น เพิ่นเล็งฮู้ตั้งแต่โดน
เพิ่นว่าน้ำสิล้นท่วม ทุกแห่งแถลงไข
คนจังไฮสิครองเมือง บ่อยู่เย็นพอน้อย
เมืองนั้นสิไหม้ ลุกเป็นไฟให้คนเบิ่ง
มีสีเหลืองสีแดง แข่งกันอยู่เทิงฟ้า
เพิ่นจักนำพาให้อยู่ในแดนสุวรรณภูมิ มาเป็นปุ้มเป็นโหง่น
อยู่ในโซนโลกร้อน พาให้ไหม้แผ่นดิน
เพิ่นจักประมวลให้สิ้น ม.ศ.๕ แถลงไข
เกิดเป็นยุคศิวิไลซ์ในสมัยรัฐประหาร กล่าวขานกันเป็นปุ้ม
มาประชุมกันเข้า แยกกันเป็นกลุ่ม
อยู่ทุกหัวมุมเมืองเรื่องที่มันเกิดขึ้น มันเป็นหน้าหน่ายสะอาง
บางส่วนนั้น ขึ้นฃื่อเป็นนายก
พกเอา อบต.มาควง แบ่งกันเป็นตำบลพร้อม
คนกะยอมเสียให้ เป็นใจเบิ้ดทุกส่วน
เพิ่นประมวลเรียบร้อย เสียเสี่ยงแข่งขัน
บั้นหนึ่งนั้นชื่อว่า นส.เพิ่นสิมาครองเมือง ฮุ่งเฮืองนองไหลล้น
แห่กันเป็นปุ้มมาประชุมกันเข้า ถวายงานสู้ต่อ
พ่อพระองค์บอกแล้ว ให้ชูค้ำศาสนา
ฝูงนาโคนาคีพร้อมพนมกรขาบส่ง หยังก่ะส่าโป้ง ๆ คนย่องส่าลือ
คันว่าเพิ่นจุบเป็นเมืองนั้น กะสันหาเข้ามาใส่
ศรีวิไลซ์เกิดขึ้นแล้ว มาโฮมตุ้มหม่องเดียว
หนทางเทียวมันเวิ้ง เหิงหลายมันสิค่ำ
มัวนำต่าบักหว่า มันซิซ้าค่ำทาง
บ้านก่ะสิฮ้าง กะสิห่างไกลจร
เมืองนครทั้งหลาย หมุ่นเพทะลายม้าง
มีทางเหนือนนั้น สูงซันตั้งเก่เด่
แผ่นดินเลื่อนเคลื่อนเอ้เล่ มาอ้นตะหล่างเฮือน
ทางดินโครลผสมตม ข่มลงทางใต้
น้ำนองขึ้นเป็นฟองเสียงดังฟาดฝั่ง หยังก่ะอยู่บ่ได้ไหลเข้าสู่นคร
ฝูงนาคีนาคน้ำโตน้อย โตใหญ่ท่อลำตาล
ฝูงนาโคไพศาลขาบพนม อยู่ทางใต้
คงทางเทิงจักได้หาขอนมาขี่จุบหม่องฮั่น จั้มหม่องนี่หนีน้ำโส่แซว
โลกธาตุเกิดขึ้นแล้ว บ่อฮู้ฮ่อมทางสิไป
พากันยืนยอคอ สิต่าวคืนเมือบ้าน
กาลบัดนั้น ย่อนคนเฮาคิดบ่ถี่
นกมันอยู่ป่าแท้ๆ สังหาเรื่องไก่อยู่คอน
หนูน้ออยู่ในดอนป่าไม้ หยังมาถืกใส่ควม
หนอนอยู่ในไหเป็นหยังน้อ จั่งโทษให้ปลาแดกเน่า
ของสิกินแจกใส่ท้อง พากันฮ้องไห้แหล่นหนี
เกิดโรคร้ายโรคาพยาธิหยิ่ง สิงอยู่ในใต้น้ำเต็มพื้นแม่นที
มีงูเหลือมแข่น้อยถูกปลดปล่อย คอยหากิน
มีสัตว์อสรพิษ อยู่ถิ่นเนาสุวรรณภูมิพุ้น
โลกมนุษย์ถูกปล้น ย่อนคนเฮาคิดบ่ซื่อ
บ่ถือธรรมแท้ ๆ โตน้อขึ้นส่งเสียง
รัฐประหารให้เกลี้ยง บอกคำกล่าวแถลงไข
เกิดเป็นยุคศิวิไลซ์ บ่จือจำคำเว้า
เฮาสิมาคูณค้ำ เนานำให้ซ่นฮ่ม
ได้บังคมกราบไหว้ ถวายเบื้องอยู่บน
แสนชะนีเป็นที่ตั้ง ขึ้นชื่อว่านขาเล็บ
เก็บมาเป็นตำนาน ถิ่นสถานธรรมตั้ง
โมคคัลลามาสร้าง แปลงทางสิบต่อ
เป็นตำนานฝากให้ หลาย ๆ หม่องให้เบิ่งเอา
เพิ่นว่าน้ำสิท่อมฟ้า ปลาสิเสิ่นกินดาว
ซาวนครเมืองเฮา สิเหล่าตายเบิ้ดเกลี้ยง
ตายเบิ๊ดเสี่ยงเหลือแต่ดินเพียง เกลี้ยงหมิ่นหลิ่น
เกิดเป็นดงป่าไม้ คนนั้นบ่เห็น
ธรรณีพิโรธฮ้าย ฟ้ากะหลั่นดินสะเทือน
กบกินเดือนทางตจะเว็น บ่เลือกยามพอน้อย
มีนารายณ์มาเฝ้า อินทร์ พรหม ยมราช
มีนักปราชญ์พร่ำพร้อม ซูขึ้นซ่อยกัน
กัมมหาฤทธิ์นาคน้อย ขึ้นชื่อว่ากุญชร
มีบุตรีกันทรกันแสง มิ่งเมืองภายพื้น
เมืองเหนือขึ้น เมืองอีสานมันสิฮุ่ง
เมืองกลางสิปั่นป่วน มันสิเกิดน้ำท่วมจมพื้นแม่นที
นับจากนี่ขึ้นชื่อพระวัสสา มีพญาทั้งเจ็ดอยู่เวียงมาเต้า
มาคูณเค้าแปลงเมือง อีกเทื่อใหม่
จั่งสิเป็นศรีวิไลซ์แท้ ๆ คอยถ่าเบิ่งเอา
ฮอยพระบาทเจ้า องค์เอกสัพพัญญู
บูรพาแถลงไขเพิ่นเปลี่ยนเวรมาให้ เฮาจักได้พากันมายอยิ่ง
สิ่งที่เพิ่นมอบให้แล้ว จักได้ฮับฮอง
พระสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว แล้วหากแม่นพระโลหิต
มีทั้งผงอังคารเพิ่นมอบเวนประเคนให้ เฮาจักได้ใหญ่สูง
พลานสูงเป็นที่ตั้ง หน้าผาประวัติศาสตร์
เพิ่นได้วาดขีดแต้ม แนมแล้วฮุ่งเฮือง
สีเหลืองเลื่อมนครแสนคำ จับยอตั้งขึ้นใหม่
นครแสนเมืองกะได้ แปลงสร้างดั่งประสงค์
เมืองบัวอยู่ซ้ง ๆ บ้านไร่นาเจริญ
จักฮุ่งเฮืองแสงใส ต่อไปภายหน้า
จำปาศรีเขตซ้ง เขตขอนแก่นเมืองแมน
อยู่ในแดนแคนคำ ถิ่นสาวัตถีพุ้น
ไปทางกล้ำเมืองเลย วัดห้วยเดื่อ
กาฬสินธุ์พร่ำพร้อม ยอย่องซอยกัน
เจ็ดสิบสองผู้ค้ำ เพิ่นเวนทอดมาเถิง
เพิ่นสิเอาเขิงคำ ฮ่อนหาคนแท้
กวงกินหมากขามป้อม สังไปคาคอมั่ง
มั่งบ่ขี่ ๓ มื้อกระต่ายตาย กระต่ายตายแล้ว เห็นอ้มผัดเน่านำ
ถิ่นใส่น้ำดังโป๊ก ถิ่มใส่บกดังถ่วม
ถิ่มใส่ป่าหญ้าปล้อง ดังก้องสนั่นเมือง
เทียวทางเวิ้งเหิงนานหลาย มันสิค่ำ
หมกปลาแดกตั้งโจโก้ สังมาจ้ำถืกแต่ตอง
ทางมันเยิ้นเดินไกลหลาย มันหากเมื่อย
ทางสิบแผ่นฟ้า ซาวแผ่นฟ้า หย่อเป็นแผ่นดินเดียว
ทางสิบคืน ซาวคืน หย่อเป็นคาวมื้อ
ให้เจ้าถือคติธรรมไว้ เป็นคำสอนเพิ่นบอกกล่าว
เตือนให้ซาวมนุษย์โลก ให้คงมั่นดั่งเดิม
คนรวยนั้นกลับมาจนคือเก่า คนจนนั้นเสมอพร้อมถ่อกัน
คนทุกข์ยากฮ้าย บ่อึดอยากแนวกิน
ย้อนเพิ่นมีศีลธรรม แบ่งปันกันได้
คนรวยนั้น มีหลายกะยากหยิ่ง
ย้อนบ่กินบ่ทานย้อนบ่หาใส่ไว้ บุญบ่ออยู่ส่งซู
แม่นสิรวยล้นฟ้า กะตายจากหนีเสีย
บ่ติดโตเฮาพอนิด บ่คิดแปลงทางไว้
คันเฮากินเฮาทานไว้ มันก่ะสิติดโดตไป มื้อหน้าเฮาก่ะสิได้เพิ่งทาน
เทวดาเพิ่นอยู่ข้างทางเทิง เพิ่นกะหลิงหล่ำฮู้ เขียนไว้ใส่ศาล
ยมบาลเพิ่นกะพร้อม จดจ่อบันทึกเขียน ประวัติบุญธรรม
ผู้ที่ทำผิดไว้อย่าคิดเลย สิหนีพ้น
แนวเพิ่นเทียวนำก้น เซ็นเอาเบิ๊ดทุกอย่าง
บ่วาหย่างบ่วาเวิ้ง เพิ่นเห็นฮู้คู่สู่อัน
ให้เจ้าสามัคคีกันไว้ คือฮากไผ่และกำแพง
ให้คือไหลอยู่น้ำ มวยเกล้าส่ำผม
ต่อจากฮั่นขึ้นชื่อพระวัสสา มีโญคีสีเหลืองสีลาย
สีขาว ดำ ผสมกัน เกิดโลกใหม่
คนจังไฮกะสิเฮ็ดบาปหน่อย มันเห็นฮู้อีหลี
บาปอยู่กับผู่ทำ กรรมอยู่กับผู้ก่อ
พ่อเพิ่นบอกไว้แล้ว เฮาจักได้ฮ่ำพิง
ให้เจ้าคนิงคำเว้า หลิงดูให้มันถ่อง
ป่องพระธรรมผูกนี่ กรรมต้องสิค่อยมาย
เพราะว่าโมโหฮ้าย พาโตตกต่ำ
อวิชชามาปิด ให้มืดบังบ่เห็นแจ้ง
บาปก่ะมีอยู่เท่อเล่อ บุญก่ะมีอยู่แท้แหล่ว คนเฮานั้นบ่ไตร่ตรอง
แม่นเจ้าครองธรรมแท้ เป็นหยังน้อบ่แนมเบิ่ง
สังมาหาแต่เรื่อง จาเว้าบ่แม่นธรรม
โตบาปนั้นหัวดำ ก้นก่าน โตบุญนั้นหัวโหล่น ก่านเหลือง
พระกับพระ ก่ะบ่ถืกกัน
โยมกับโยมบ่เห็นพร้อม มีแต่ดันกันทั้งสองฝ่าย
แม่ชีนั้นบ่ปฏิบัติธรรม ธรรมนั้นบ่ออยู่นำ
ยักษ์สิอยู่ในโรงครัว จั่วน้อยอยู่กระโถน
จักเป็นคนหัวดื้อ เอาแต่ใจเป็นใหญ่
อยากข่มเหงไผก่ะได้ บ่กลัวย่านบาปกรรม… บ่น้อ
พระบ่มีศีล แม่ชีบ่มีศรี
สังก่ะลีบ่มีศักดิ์ หลักบ่มีเชือกผูก
หูกบ่มีกี่ สิตั่มได้ฮ่อมได๋
หนอนมีในหมากงิ้ว อันนี้บ่ฮ่อนควร
กกติ้วบ่มีหนาม กกขามบ่มีหง่า บ่าบ่โปก นั่นบ่แม่นคนดู๋
กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง ป้องอยู่กอ งออยู่แขนศอก
หอกบ่มีคม ลมบ่มีหม่องสิเป่า เต่าบ่อยู่หนอง
พระยาบ่ครองเมือง ผ้าเหลืองบ่ครองวัด วัดสิมีแต่หลวงตาอยู่เฝ้า
หมาบ่มีเจ้า ข้าวบ่มีเล้า เมาบ่เลิก สิรวยได้จั่งได๋
ไก่บ่มีคอน นอนบ่มีสาด นี่กะทุกข์ยากอีหลี
ถ้วยกับบ่วงตีกันป่องแป๋ง ครกกับสากฟัดกันโบ๊กเป็ก
หมากไม้บ่มีต้น คนสิไปซ่นฮั่มได๋
สามฮ่มโพธิ์ศรีเพิ่นบอกไว้ ให้มีธรรมเป็นที่เพิ่ง
พระศรีอริโย พระโคตะโม พระปัจเจกพุทธเจ้า เฮาจักได้ซ่นฮ่มมา
ศรีลังกาคิชฌกูฎ หม่องอยุ่พระทันตะ
กัสสปะเทียวมอง ส่องหาเล็งไว้
โครตภูเพิ่นก่ะได้ บรรจบนขาเล็บ
ศาลพระอินทร์ เพิ่นกะได้
บรรจบพระสารีริกธาตุ อังคารพร้อมพร่ำกัน
ศาลพระพหรมนั้น ผันมาอีกต่อ
ห่อพระโลหิตไว้ฮั่น ยักษ์โขเจ้าเป็นผู้ครอง
ศักดามณีภรังสีเจ้า เป็นคนครองบอกกล่าว
พระยาธรรมแท้ ๆ คนจักได้พบเห็น
มีพระนารายณ์เป็นเจ้า อารักขากัมมหาฤทธิ์อยู่
มีเทิงแสงมณีโชโต หากฮุ่งเฮืองเคียงข้าง
เทวจักรกะจึงได้เขียนต่อแปลงสาร เอาไปบรรจุอยู่นครพนมพุ้น
หกผูกนั้นไปบรรจุไว้ ทางก้ำฝ่ายพระยาขอม
อยู่ศาลพระพรหม หม่องที่บรรทม ของพุทธพระองค์เจ้า
ต่อจากฮั่น หกร้อยพระวัสสา
จึงได้เกิดพระแก้ว เฮืองฮุ่งครองเมือง
มีอยู่สิบสองพระองค์ ที่เพิ่นปลงเทศนาไว้
แต่ละแก้ว ย้ายไปอยู่หัวมุมเมือง
รวมทั้งเมืองสุวรรณภูมิ ซื่อว่าเทโวเจ้า
พระยาขอมจักได้ เอาแท่นพระบัลลังก์
ของพระโคตรมะมาเป็นแท่นตั้ง ถวายเจ้าพุทธพระองค์
ชาวเมืองนั้นคงความพร้อม เห็นดีเบิ๊ดสุหย่าง
ต่างกะโมทนามอบให้ แปลงได้ดั่งประสงค์
เฮาก่ะมาแปลงสร้าง แปลงทางถวายเพิ่น
เฮากะดีได้ บารมีสิเกิดให้ ศรีวิไลซ์เจ้า … ฮุ่งเจริญ …