Daily Archives: 6 มกราคม 2015

เทปูนหล่อพระหลวงพ่อพระโตโคตะมะ

เทปูนหล่อพระหลวงพ่อพระโตโคตะมะ ๖ - ๑๑ มกราคา ๕๘

เรียนเชิญท่านสาธุชน ร่วมสร้างบุญบารมีเทปูนหล่อพระหลวงพ่อพระโตโคตะมะ วันที่ 6-11 มกราคม 2558 ณ วัดสว่างอารมณ์ ต.โนนศิลา อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ Read More »

ปรับปรุงและบูรณะศาลาวิบูลย์ธรรมธาดานุสรณ์

งานปรับปรุงและบูรณะศาลาวิบูลย์ธรรมธาดานุสรณ์ สถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ  วัดภูพลานสูง   อยู่ระหว่างดำเนินการ ( จันทร์ ๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ ) Read More »

พิธีพุทธาภิเษก

พิธีพุทธาภิเษก

คืนวันจันทร์ที่ ๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ มีการประกอบพิธีพุทธาภิเษก  หลวงพ่อพระโตโคตะมะ  ขนาดหน้าตัก ๓.๖๐ เมตร ณ วัดดอนงิ้ว ต.วาริน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โดยมีพระเดชพระคุณพระราชธรรมโกศล เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี ( ธ ) เป็นประธานจุดเทียนชัย และหลวงพ่อภรังสี ฉนฺทโร เจ้าอาวาสวัดภูพลานสูง เป็นองค์เทศนาธรรม Read More »

บทส่งท้าย

     ตั้งหลวงพ่อภรังสีได้รับนิมนต์จากชาวบ้านหลักเมือง ให้ขึ้นมาดูแลวัดภูพลานสูง หลวงพ่อได้ขึ้นมาอยู่วัดภูพลานสูงในปี ๒๕๔๗ และได้นิมิตเห็นพระบรมสารีรกธาตุข้อพระหัตถ์เบื้องขวา เมื่อหลวงพ่อตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าพระบรมสารีริกธาตุข้อพระหัตถ์เบื้องขวา ที่ประดิษฐานอยู่ที่ปราสาทหินนครอินปัตจะเสด็จมาสู่วัดภูพลานสูง วันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๔๗ หลวงพ่อจึงได้เตรียมการรับเสด็จ โดยได้บอกบรรดาศิษย์ใกล้ชิดและญาติโยมร่วมกันรับเสด็จตามวันดังกล่าวพอเวลา ๑๙.๐๐ น. พระธาตุข้อพระหัตถ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับที่พระ หัตถ์ของพระพุทธชินราชบนลานธรรม เมื่อพระบรมสารีริกธาตุข้อพระหัตถ์เบื้องขวาได้เสด็จมาประดิษฐานวัดภูพลาน สูง พญานาคซึ่งมีความเลื่อมใสศรัทธาต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่อพระศาสนา ในวันที่ ๒๗ กรกฏาคม ๒๕๔๘ พญาศรีสุทโธนาคราชได้นำลูกแก้วพญานาคถวายหลวงพ่อ เพื่อเป็นการบูชาพระบรมสารีริกธาตุจำนวน ๕ ลูก และท้าวศรีสุริยะเทพอินทรวิญญาณอดีตเจ้าเมืองพนมรุ้ง ได้นำลูกแก้วมาถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระบรมสารีริกธาตุ ๒ ลูก หลังจากที่หลวงพ่อภรังสีได้รับพระบรมสารีริกธาตุข้อพระหัตถ์เบื่องชวาแล้ว หลวงพ่อได้ทราบด้วยญาณว่าที่ปราสาทหินดังกล่าวยังมีพระบรมธาตุสรีรังคารอยู่ อีกและทราบว่าเทวดาจะนำมาถวายที่วัดภูพลานสูงในวันข้างหน้า เพราะของ ๒ สิ่งคือ พระบรมสารีริกธาตุข้อพระหัตถ์เบื้องขวาและพระสรีรังคารเคยประดิษฐานอยู่ด้วย กันที่ปราสาทหินหลังนี้ ในวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๔๘ เวลา ๑๗.๓๐ น. พระสรีรังคารพระบรมธาตุได้เสด็จมาที่วัดภูพลานสูงบริเวณหน้าพระสังกัจจายนะ หลวงพ่อได้ทำพิธีอัญเชิญมาไว้ที่ศาลาวิบูลธรรมธาดานุสรณ์ อยู่ต่อมาวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๔๘ เวลา ๐๔.๐๐ น. หลวงพ่อได้รับคัมภีร์โบราณส่วนแรก จำนวน ๔ ... Read More »

ประมวลพระยาธรรม ๑๒ ผูก(ภาษาอีสาน)

สาธุ สาธุ สาธุเด้อ… ผู้ข่าจักขอยอมือน้อม                  เท่ากระหม่อมจอมขวัญ เป็นสำนวนสิ่งที่มาประมวลไว้                               เพิ่นจักให้แขนงธรรมทุก ๆ อย่าง สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นฮั่น                                               เพิ่นเล็งฮู้ตั้งแต่โดน เพิ่นว่าน้ำสิล้นท่วม                                        ทุกแห่งแถลงไข คนจังไฮสิครองเมือง                                                บ่อยู่เย็นพอน้อย เมืองนั้นสิไหม้                                                      ลุกเป็นไฟให้คนเบิ่ง มีสีเหลืองสีแดง                                                     แข่งกันอยู่เทิงฟ้า เพิ่นจักนำพาให้อยู่ในแดนสุวรรณภูมิ                        มาเป็นปุ้มเป็นโหง่น อยู่ในโซนโลกร้อน                                         พาให้ไหม้แผ่นดิน           เพิ่นจักประมวลให้สิ้น                                      ม.ศ.๕ แถลงไข เกิดเป็นยุคศิวิไลซ์ในสมัยรัฐประหาร                        กล่าวขานกันเป็นปุ้ม มาประชุมกันเข้า                                                    แยกกันเป็นกลุ่ม อยู่ทุกหัวมุมเมืองเรื่องที่มันเกิดขึ้น                                    มันเป็นหน้าหน่ายสะอาง บางส่วนนั้น                                                         ขึ้นฃื่อเป็นนายก พกเอา อบต.มาควง                                      แบ่งกันเป็นตำบลพร้อม คนกะยอมเสียให้                                                    เป็นใจเบิ้ดทุกส่วน เพิ่นประมวลเรียบร้อย                                               เสียเสี่ยงแข่งขัน           บั้นหนึ่งนั้นชื่อว่า นส.เพิ่นสิมาครองเมือง          ฮุ่งเฮืองนองไหลล้น แห่กันเป็นปุ้มมาประชุมกันเข้า                             ถวายงานสู้ต่อ พ่อพระองค์บอกแล้ว                                                ให้ชูค้ำศาสนา ฝูงนาโคนาคีพร้อมพนมกรขาบส่ง        ... Read More »

ประมวลพระยาธรรม ๑๒ ผูก

    วันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสมากราบหลวงพ่ออีกครั้ง    หลังจากที่หลวงพ่อได้กลับจากการไปทำภารกิจเผยแผ่พระศาสนาที่เมืองเหนือ   ในวันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสรับทราบเรื่องราวคำประมวลพระยาธรรม ๑๒ ผูกเพิ่มเติม    หลวงพ่อได้อธิบายว่าพระยาธรรม ๑๒ ผูก   ไม่ใช่โมคคัลลาพยากรณ์    ประมวลพระยาธรรม ๑๒ ผูกนี้เกิดขึ้นตอนที่หลวงพ่อไม่อยู่ไปแม่สายเมืองเหนือ   หลวงปู่ใหญ่โมคคัลลานะให้อาจารย์น้อย   น้องหลวงพ่อเขียน   คนเขียนเขียนไม่ถูกต้องเพราะเป็นคำบอกเล่าโดยใช้ภาษาโบราณ    หลวงพ่อเลยมาเรียบเรียงถ้อยคำใหม่เป็นภาษาอีสานประมวลพระยาธรรม ๑๒ ผูก    หลวงปู่ใหญ่ ฯ ได้ประมวลลงไว้ในนี้หมดแล้ว   เป็นการประมวลรวบรวมเรื่องต่าง ๆ ในอดีต   ปัจจุบันและอนาคต    หลวงปู่ท่านประมวลเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไว้ตรงนี้    ประมวลไว้จบหมด   เรื่องราวต่าง ๆ ในโลกเขาประมวลลงปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ตอนนี้เดือน ๑๒ แล้วใกล้จะหมดปีแล้ว   ต่อไปก็เป็นเดือน ๑ ปี พ.ศ. ๒๕๕๔   ไม่ใช่นับเดือนมกราคม   นับทางปีไทย ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ก็เริ่มต้นสู่ยุคศิวิไลซ์    จากนี้เราจะเห็นความเสมอภาคของมนุษย์    ฉะนั้นเราจึงต้องทำบุญทำทานสั่งสมบุญบารมี    คนจนเขาทำบุญทำทานไว้ ... Read More »

เทวดาที่มาช่วยงานพระศานา

     หลวงพ่อบอกกับผู้เขียนว่าการทำงานของหลวงพ่อเกี่ยวกับพระศาสนาในยุคสมัย นี้หลวงพ่อใช้กฎหมายผี   คือใช้ผีทำงาน   ทั้งผีทั้งเทพต่างมาร่วมกันทำงานกับหลวงพ่ออย่างเต็มใจมีเทพอยู่หลายองค์ที่มาช่วยงานและสมควรกล่าวถึงคือมหาเทพธูปมาลีในอดีตชาติเป็นพระวอ  ป็นผู้สร้างนครจำปาศักดิ์    ท่านเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาในยุคนั้นท่านได้สร้างพระพุทธรูปขึ้นมา ๕ องค์    ถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์    ภายหลังท่านได้ย้ายเมืองมาอยู่ที่สุวรรณภูมิแถบบริเวณจังหวัดอุบลราชธานีสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่พระศรีอริยเมตไตรย์ได้เสด็จมาโปรดพระวอ    พระวอเดินทางจากนครจำปาศักดิ์   ประเทศลาว   มาที่จังหวัดอุบลราชธานีในปัจจุบัน    ท่านได้งาช้างเผือกมา ๑ กิ่ง เอามาเก็บไว้ที่นครจำปาศรี    หลังจากที่พระวอตาย    พระศรีอารยเมตไตรย์ได้เอางาช้างเผือกมาอธิษฐานให้เป็นจระเข้เผือกตัวใหญ่และบวชวิญญาณพระวอเป็นผ้าขาวขี่จระเข้เผือกมาตามลำน้ำโดมขึ้นไปบำเพ็ญภาวนาที่ยอดลำโดม    ที่วังมนวังฮี   เมืองโคตรภู   ต่อมาชาวบ้านเรียกหมู่บ้านนั้นว่า “แข้ด่อน”  เพราะมีจระเข้เผือกโผล่ขึ้นมาให้เห็น   คนอีสานเรียกจระเข้ว่าแข้   ชาวบ้านแถบนั้นเคารพพระวอเจ้าพ่อปะขาว   เวลาหน้าฝนถ้าชาวบ้านอยากเห็นจระเข้เผือกเขาจะเรียกหลวงปู่ปะขาวเอ๋ยขึ้นมา ให้ลูกให้หลานได้ชมหน่อย    จระเข้เผือกก็จะลอยตัวขึ้นมา   ตัวยาวประมาณ ๓ เมตร   มีพ่อปะขาวนั่งอยู่บนหลังจระเข้ลอยไปลอยมาให้ผู้คนได้ชม   ช่วงนั้นเจ้าพ่อปะขาวโด่งดังมากผู้คนยำเกรงเคารพนับถือมาก    ต่อมาเจ้าพ่อปะขาวได้บำเพ็ญบารมีเพิ่มขึ้นได้ไปบังเกิดในสวรรค์มีนามว่า “เทพธูปมาลี”   เทพธูปมาลีได้สร้างบารมีจนได้รับตำแหน่งให้เป็น  “มหาเทพธูปมาลี”   เป็นผู้ดูแลประสานงานถวายงานแด่พระพุทธองค์ตามตำนานสุริยะธาตุ ม.ศ. นี่แหละมาในยุคนี้มหาเทพธูปมาลีก็เป็นผู้มีอำนาจได้รับอำนาจมาจากพระพุทธเจ้าทุก พระองค์    พระโพธิสัตว์และพระปัจเจกพุทธเจ้า เป็นผู้มาดูแลพระพุทธศาสนาช่วยเหลืองานพระพุทธองค์ในเรื่องพระพุทธศาสนา    พระพุทธเจ้ากำหนดเรียกว่า “พุทธวงศ์” พุทธวงศ์จะไม่ทิ้งกันเหมือนกษัตริย์ดูแลขัตติยะประเพณี   แม้จะสิ้นชีพไปแล้วเขาก็ตามดูแลเคารพในความเป็นพระพุทธเจ้าในความเป็นพระมหา กษัตริย์ สมัยก่อนเมื่อพระมหากษัตริย์สิ้นพระชนม์ไปแล้วคนเราก็ยังคงเคารพนับถือสืบ ... Read More »

วังพระนิพพาน

     ผู้เขียนได้กราบเรียนถามหลวงพ่อเกี่ยวกับวังพระนิพพาน ตามที่หลวงพ่อเคยเล่าให้ฟังว่าตอนที่หลวงพ่อเป็นสามเณร จำพรรษาอยู่วัดศรีพรหม    ได้นิมิตเห็นพระอริยเจ้าเดินจงกรมอยู่เหนือวัดภูพลานสูง    และในนิมิตบอกว่า   “ที่นี่คือวังพระนิพพาน”   หมายความว่าอย่างไร    หลวงพ่ออธิบายให้ผู้เขียนฟังว่าที่ตรงนี้บนภูพลานสูงแห่งนี้    เป็นดินแดนของพระพุทธองค์    ดินแดนของพระพุทธเจ้าที่มาประทับรอยพระพุทธบาท   รอยพระหัตถ์    และพระสรีรังคารของพระพุทธองค์ซึ่งเป็นองค์เอกทั้งหมดปรากฏอยู่   ณ สถานที่แห่งนี้   ที่ตรงนี้จึงเป็นสรวงสวรรค์เป็นวังพระนิพพาน   เป็นที่อยู่ของพระอริยเจ้าทั้งหลายในสายพระอริยเจ้า   ถ้าจะพูดไปใต้ภูเขาลูกนี้มันเป็นภพหนึ่งอยู่ใต้ภูเขา    ภพนั้นเป็นภพภวังค์   คล้าย ๆ กับเป็นโพรงถ้ำ    ไม่ใช่เมืองบังบด   ในเมื่อพระอนาคามี  พระอรหัตมรรคยังไม่สิ้นแต่ตายก่อนทุกองค์ก็จะเข้าไปอยู่ตรงนั้นใปดับอยู่ตรงนั้นในแดนภวังค์ แดนพระนิพพานดินแดนแห่งนั้นมันจะเย็น   กว้าง  สงบเงียบ   เย็นเจี๊ยบเลย   คนธรรมดาจะเข้าไปไม่ได้   ทางเข้าอยู่บนภูเขาต้นน้ำบุ้นนั่นแหละ    จึงทำให้ภูเขาลูกนี้เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ชุ่มชื้น    เป็นสิริมงคล    เพราะข้างล่างแผ่นดินยังมีอีกภพหนึ่งอยู่ใต้นั้นคือภพภวังค์หรือวังพระ นิพพานพระฤๅษี   พระอรหันต์ทั้งหลายที่มรณะภาพไปแล้ว   แต่ยังไม่ถึงพระนิพพาน   เช่น   พระอนาคามี       พระอรหัตมรรคเมื่อตายไปแล้วไม่มีคนบำเพ็ญบุญอุทิศกุศลให้    ไม่มีคนชักผ้าบังสุกุลให้ตายอยู่ในป่าในเขาก็ต้องไปรวมกันอยู่ที่นั่นไปดับ ที่นั่น    เมื่อดับตรงนั้นสิ้นอาสวะกิเลสแล้วก็เข้าพระนิพพานตรงนั้น    มันเป็นดินแดนที่เป็นทิพย์อยู่ใต้แผ่นดินภูเขาลูกนี้    มีพระตระเวนเข้าไปดับนิโรธดับอยู่ที่นั้น    การที่จะเข้าไปตรงนั้นได้ต้องบำเพ็ญบารมีถึงขั้นอนาคามีมรรค   อรหัตมรรคก็ไปตามธรรมชาติ ... Read More »

เหตุที่พญานาคปรากฏตัวบ่อยในยุคนี้

      สาเหตุที่พญานาคมาปรากฏตัวในหลายจังหวัดหลายพื้นที่ในยุคนี้หลวงพ่ออธิบาย ให้ผู้เขียนฟังว่า   พญานาคเป็นสัตว์อาศัยอยู่ใต้บาดาลใต้แม่น้ำ   เมื่อพญานาคลอยตัวขึ้นมาเหนือน้ำในยุคสมัยใด   แสดงว่าจะเกิดอาเพทเกิดเรื่องไม่ดี   แสดงให้เห็นว่าบ้านเมืองและโลกเรานี้กำลังเกิดกลียุค    เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองหลวงจะเกิดการปั่นป่วนวุ่นวาย  นี่ธรรมชาติแสดงให้เรารู้เหมือนที่โบราณว่าเราเดินไปเจองู    หรืองูสิงห์เข้าบ้านงูเห่าเข้าบ้านเป็นอุบาทว์อุบาทว์เป็นภาษาโบราณเป็นลางบอกเหตุ  เมื่อปีสองปีที่ผ่านมาบ้านเมืองเกิดความวุ่นวายที่กรุงเทพตอนนั้นปรากฏว่ามีพญานาคเกิดขึ้นที่มุกดาหารผู้เขียนเกิดความสงสัยขึ้นมาได้ กราบเรียนถามหลวงพ่อว่าแล้วที่คนพากันไปดูบั้งไฟพญานาคหรือไปดูพญานาคที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำเป็น อัปมงคลไหม    เพราะตามความคิดของเราที่เป็นคนสมัยใหม่คิดว่าเป็นสิริมงคล ที่พญานาคซึ่งเป็นสัตว์ที่เราถือว่าเป็นสัตว์มงคลโผล่ขึ้นมาให้พวกเราได้ชม บารมีกันหลวงพ่อบอกว่าคนที่ไปดูก็เป็นอัปมงคล    อย่างเช่นเราเป็นมนุษย์ธรรมดาเกิดไปเห็นวิญญาณคนที่ตายไปแล้วก็อุบาทว์   ทำให้เราแพ้ทำให้เราไม่สบาย ไม่ใช่เรื่องดี อยู่ดีๆ คนธรรมดินไปเจอวิญญาณคนที่ตายไปแล้วเดินไปเดินมาไม่กี่วันเราก็ต้องเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นโน่นเป็นนี่โดยไม่มีสาเหตุบางคนถึงตายไปก็มี สิ่งเหล่านี้เป็นอุบาทว์เป็นอัปมงคลแต่พญานาคก็นับถือพุทธศาสนาศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเมืองบาดาลเป็นสวรรค์ชั้นล่างผู้ที่เกิดเป็นพญานาคก็ไถ่กรรมมาเรื่อยๆการเกิดเป็นพญานาคก็ใกล้จะได้เกิดเป็นมนุษย์แล้วคือพร้อมที่จะเกิดเป็นมนุษย์ได้พญานาคถ้าเขาลงไปในน้ำเขาจะเป็นงูพอเขาขึ้นมาบนบกเขาก็กลายเป็นมนุษย์ธรรมดาเหมือนพวกเรานี่แหละแต่ถ้าพญานาคไปปรากฏตัวที่ไหนไปเหยียบพื้นดินให้เป็นรอยถ้าเราเห็นรอยใหญ่ขนาดเท่าศอก เราต้องสังเกตุว่าเป็นรอยมนุษย์หรือรอยสัตว์อะไร  เราต้องดูต้องสังเกต  ถ้าเห็นรอยใหญ่ยาว   ฝ่าเท้าใหญ่แหลมมี ๔ นิ้ว   ไม่ใช่ ๕ นิ้ว   พญานาคมี ๔ นิ้ว   อีกนิ้วหนึ่งจะอยู่สูงขึ้นไปเหมือนเดือยไก่    มังกร ๕ เล็บ เวลาเขาเหยียบลงไปที่พื้นดินจะปรากฏเพียง ๔ นิ้ว    อีกนิ้วหนึ่งอยู่ข้างบนนั่นคือสัตว์เดรัจฉาน    เป็นรอยของพญานาครอยของมังกร เกล็ดพญานาคศรีสุทโธหลวงพ่อเก็บไว้บนศาลาฯ   คราบพญานาคศรีสุทโธที่หลวงพ่อได้มาเป็นคราบสะดือตอนเด็กของพญานาคศรีสุ ทโธ พญานาคเขาจะมีการเสี่ยงทายกันตอนอายุได้หนึ่งเดือนว่าลูกใครจะได้พญาเป็น กษัตริย์ของพญานาคถ้าพญานาคตนนั้นไม่กินคราบสะดือของตนเองพญานาคตนนั้นจะได้เป็นพญาได้เป็น กษัตริย์พญาศรีสุทโธไม่กินคราบสะดือของตัวเองจึงได้เป็นพญา พญานาคจะเก็บคราบสะดือไว้    หลวงพ่อได้มาเพราะพญาศรีสุทโธนาคราชนำมาถวายเป็นพุทธบูชา ลูกแก้วพญานาคก็เหมือนกันพญานาคศรีสุทโธก็น้ำมาถวายเป็นเครื่องสักการบูชา ... Read More »